รูปแบบการขนส่ง

รูปแบบการขนส่ง

การขนส่งระหว่างประเทศมีความสำคัญต่อการค้าและเศรษฐกิจโลกอย่างมาก เพราะช่วยให้สินค้าสามารถเคลื่อนย้ายข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รูปแบบของการขนส่งระหว่างประเทศสามารถแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ได้ 2 รูปแบบ คือ การขนส่งทางอากาศและการขนส่งทางภาคพื้น ทั้งสองรูปแบบมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามลักษณะของสินค้าที่ต้องการขนส่ง

การขนส่งทางอากาศเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากความเร็วในการขนส่งสูง สามารถขนส่งพัสดุจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน ซึ่งเหมาะสำหรับพัสดุที่มีมูลค่าสูง หรือต้องการการขนส่งที่รวดเร็ว เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าแฟชั่น หรือผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางอากาศมักจะสูงกว่ารูปแบบอื่น ดังนั้นผู้ใช้งานต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการขนส่งด้วย การขนส่งทางอากาศยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามลักษณะของการบริการ ได้แก่

• การขนส่งทางอากาศแบบด่วน (Express): เหมาะสำหรับพัสดุที่มีจำนวนไม่มากและน้ำหนักไม่มาก ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ได้ประโยชน์จากการส่งพัสดุถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว

• การขนส่งทางอากาศแบบประหยัด (Economy): เน้นการขนส่งที่ยังคงมีความรวดเร็ว แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า Express อาจมีการแวะพักเพื่อรับพัสดุเพิ่มเติม

• การขนส่งทางอากาศแบบเฟรท (Freight): เหมาะสำหรับการขนส่งพัสดุปริมาณมาก สามารถเลือกได้ว่าต้องการสายการบินที่บินตรงหรือสายการบินที่มีการแวะพัก การเลือกสายการบินที่บินตรงมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแต่ก็สามารถลดเวลาการขนส่งได้

การขนส่งทางภาคพื้นแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ การขนส่งทางพื้นดินและการขนส่งทางทะเล สำหรับการขนส่งทางพื้นดินนั้น ยานพาหนะที่ใช้มักจะเป็นรถบรรทุกหรือรถไฟ ซึ่งมีข้อดีในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่หรือสินค้าที่มีปริมาณมาก และสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่การขนส่งทางอากาศหรือทางทะเลไม่สามารถเข้าถึงได้

การขนส่งทางทะเลเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมในระดับสากล เนื่องจากสามารถขนส่งสินค้าปริมาณมากในคราวเดียว ค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางทะเลมักจะต่ำกว่าการขนส่งทางอากาศมาก เหมาะสำหรับสินค้าที่ไม่ต้องการการขนส่งที่รวดเร็ว เช่น วัตถุดิบ สินค้าอุปโภคบริโภค หรือสินค้าเกษตร การขนส่งทางทะเลสามารถแบ่งบริการออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

• การขนส่งแบบเต็มตู้ (FCL): ผู้ส่งเช่าพื้นที่ทั้งหมดของตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีขนาดต่าง ๆ เช่น 10 ฟุต, 20 ฟุต หรือ 40 ฟุต เหมาะสำหรับผู้ที่มีสินค้าปริมาณมากที่จะขนส่งในคราวเดียว

• การขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LCL): บริษัทขนส่งจะเช่าตู้คอนเทนเนอร์มาทั้งหมดแล้วแบ่งพื้นที่ในตู้ให้กับผู้ส่งออกหลายรายที่มีสินค้าปริมาณไม่มาก การขนส่งแบบนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ส่งออกที่ไม่ต้องการเช่าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด

ทั้งนี้ การเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่ต้องการขนส่ง งบประมาณ และความต้องการในการจัดส่งเวลา ขนส่งทางอากาศมีความเร็วแต่ค่าใช้จ่ายสูง ขนส่งทางทะเลมีค่าใช้จ่ายต่ำแต่ใช้เวลานาน ขนส่งทางพื้นดินสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงได้ดี